วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สิ่งของที่ควรถวายสังฆทาน

คงเป็นที่ทราบกันดีว่า "การทำบุญโดยการน้อมถวายสังฆทานด้วยจิตศรัทธา",มีอานิสงส์มาก
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยบวชพระ และในขณะที่บวชได้สอบถามพระภิกษุว่า ควรถวายสังฆทานอะไรบ้าง
ที่ตรงกับความต้องการของพระภิกษุ(นำไปใช้ได้จริง) และเป็นประโยชน์สำหรับพระภิกษุในวัด คำตอบ ตามนี้ครับ
สิ่งของที่ควรถวายสังฆทาน ประกอบด้วย

1.อาหารคาวหวาน อย่างน้อย 4 ชุด  พวงมาลัย หรือดอกไม้หอม
2.ผ้าไตรจีวร ส่วนใหญ่ที่ถวายพระภิกษุ ท่านบอกว่ามีทั้งสั้นและยาว ไม่พอดีกับขนาดของพระภิกษุ    
   แต่ละรูป ก่อนถวายควรเลือกขนาดและสีให้เหมาะสมกับพระภิกษุแต่ละรูปและแต่ละวัด
3.พระพุทธรูปขนาดตั้งแต่ 5 นิ้วขึ้นไป
4.รองเท้าแตะ (รองเท้าฟองน้ำ) จำเป็นอย่างมากในขณะที่ใช้ห้องสุขาและขณะเดินทาง
5.แว่นตา (แว่นสายตายาวหรือสายตาสั้น) เพราะพระภิกษุส่วนใหญ่อายุมาก ท่านจะไ้ด้ใช้ศึกษาพระธรรม    วินัย และปฏิบัติกิจในวัดได้อย่างสะดวก
6.ยาสระผม สบู่  ผงซักฟอก และใบมีดโกน
7.อาหารแห้ง ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จากประสบการณ์ตรง กรณีที่ฝนตก
   ไม่สามารถออกไปบิณฑบาตรได้ และพระท่านไม่มีเงินสดไปซื้ออาหารมาฉัน
8.ชุดยารักษาโรค
9.อาสนะสงฆ์ เบาะรองนั่งสำหรับพระภิกษุ
10.ร่ม ไฟฉาย  หลอดไฟ และโคมไฟ
11.หนังสือสวดมนต์และหนังสือธรรมะ
12.เงินสดใส่ซองถวายตามกำลังศรัทธา
13.อื่น ๆ ที่อยากถวายและเป็นประโยชน์กับพระภิกษุสงฆ์ หรือเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา

💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢
สิ่งสำคัญที่สุดคือควรทำด้วยจิตศรัทธาอย่างแท้จริง ทำมากหรือน้อยไม่ใช่ประเด็น ทำบุญเพื่อเนื้อนาบุญ ทำเมื่อมีโอกาส แค่ถวายอาหารพระภิกษุตั้งแต่ 4 องค์ขึ้นไป ก็เป็นสังฆทานแล้ว 
บุญจะไปบันทึกและรักษาผู้ที่ปฏิบัติดี  อีกทั้งอย่าคาดหวัง "บุญ" จนสูงเกินไป (อธิฐานในใจขอเป็นร้อยข้อ 555) แค่ให้มีจิตใจสบายและครอบครัวเป็นสุขก็เพียงพอ.....

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การดูแลพ่อและแม่ (พระอรหันต์ของลูก) ยามแก่ชรา



ขอบคุณภาพจาก http://www.backtohome.org/autopagev4/show_page.php?topic_id=1826&auto_id=14&TopicPk และ http://www.churchofjoy.net/4494 และ https://www.dek-d.com/board/view/2543741/
  • สาเหตุที่หยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุย เพราะพ่อแม่เปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูก และประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับภาวการณ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรสูงอายุ (อายุ 60 ปี และมากกว่า)
  • มาเตรียมตัวรับมือสำหรับการดูแลพระอรหันต์ของลูกในยามแก่ชรากันเถิด
  • ลูกหลานต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามอาการของพ่อและแม่ยามแก่ชรา เพราะบิดาหรือมารดามีอายุมาก การเคลื่อนไหวช้าลง ในขณะที่เดินต้องมีคนประคอง หรือบางรายต้องนั่งรถเข็น และเต็มไปด้วยโรคยอดนิยม เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ และหูเริ่มบอดคือฟังไม่ได้ยินเสียง ที่สำคัญขี้ใจน้อยเป็นที่สุด
  • การพาท่านไปโรงพยาบาลควรมีคนติดตามไปด้วยอย่างน้อย 2 คน เพราะในขณะที่คนหนึ่งกำลังประคองบิดาหรือมารดาที่แก่ชราลงจากรถยนต์ อีกคนหนึ่งไปเข็นรถเข็นมารับท่าน หรือในขณะที่คนหนึ่งไปติดต่อแผนกเวชระเบียนและนำใบนัดไปยื่น อีกคนหนึ่งอยู่เป็นเพื่อนคอยดูแล เพราะที่โรงพยาบาลมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากที่ต้องหลบหลีกกันไปมา และต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน (ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาล)
  • การตรวจปัสสาวะ หรืออุจจาระ ควรเตรียมเก็บปัสสาวะหรืออุจจาระไปจากบ้านทุกครั้ง
  • การจัดยา ควรหาซื้อกล่องสำหรับใส่ยา และติดป้ายบนกล่องยาให้ชัดเช่น ก่อนอาหารเช้า ก่อนอาหารกลางวัน ก่อนอาหารเย็น หลังอาหารเช้า หลังอาหารกลางวัน หลังอาหารเย็น และก่อนนอน
  • บางครั้งพ่อแม่ที่แก่ชรามีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ จากประสบการณ์เป็นเพราะทานยาที่มีส่วนผสมของยาที่ทำให้ง่วง ทำให้ไม่มีแรง อย่าได้ตกใจ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นพาไปพบแพทย์ครับ
  • แผลกดทับมักเกิดขึ้นในกรณีที่ไม่สามารถเดินได้และใช้เวลาไปกับการนอนเป็นส่วนใหญ่ ในระยะแรกควรพาไปทำแผลก่อน เมื่อดีขึ้นค่อยดูแลเองที่บ้าน และใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดบริเวณแผลกดทับทุกวัน และหมั่นพลิกตะแคงตัวนอนด้านที่ไม่กดทับแผลไปก่อน แล้วพลิกกลับทุก 2 ชั่วโมง และควรไปหาซื้อที่นอนลมสำหรับแผลกดทับ ซึ่งจากประสบการณ์เคยไปหาซื้อตามร้านค้าบริเวณโรงพยาบาลราชวิถี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ และหาซื้อถังออกซิเจนพกพามาติดบ้านไว้กรณีฉุกเฉิน กรณีที่เป็นโรคหัวใจ และมีอีกหลายแห่งที่จัดจำหน่ายครับ
  • ให้ความรัก ความเมตตา ไม่ใช้อารมณ์ในขณะดูแล ไม่ดุ หรือต่อว่าในสิ่งที่ท่านทำไม่ได้ และหมั่นออกกำลังกายให้แข็งแรงที่จะประคองท่านเข้าห้องน้ำ หรือ อาบน้ำ ไม่รังเกียจในการเช็ดอุจจาระหรือปัสสาวะ และไม่อายที่ต้องอาบน้ำให้มารดา(กรณีลูกชายอาบน้ำให้) และกรุณาตามใจและหมั่นนวดให้ท่านบ้าง
  • อนุโมทนาบุญ สาธุ ๆ ๆ  ทำบุญกับพ่อแม่ประเสริฐที่สุดแล้วครับ

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สถานที่ปล่อยปลาให้ได้บุญ



ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/th
  • ผม เพื่อนและครอบครัวมักจะหาโอกาสไปปล่อยปลา ซึ่งผมขอเรียกว่า นักโทษรอการประหาร ที่มีจำหน่ายในตลาดสด มากกว่า หาซื้อจากแม่ค้าที่มีอาชีพนำปลามาขายโดยเฉพาะในสถานที่ปล่อยปลา 
  • ตลาดสดส่วนใหญ่จะมีปลาไว้จำหน่าย เลือกปลาที่อยู่ในกะละมัง หรือถังใส่ปลา แล้วเลือกตัวไหนดี อันนี้แล้วแต่จะเลือก สำหรับผมและเพื่อน ๆ มักจะเลือกตัวที่ดิ้นแรง ๆ  หรือปลาที่ท้อง (มีไข่ในท้อง) จากนั้นแม่ค้าจะนำปลาใส่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่และใส่น้ำไว้พอสมควร เพื่อไม่ให้ปลาตายก่อนที่จะนำไปปล่อย
  • การซื้อปลาไม่ควรต่อรองราคา เพราะชีวิตมันต่อรองกันไม่ได้ ที่สำคัญทำเท่าที่มีปัจจัยอำนวย และไม่เดือนร้อนตนเอง
  • สถานที่ปล่อยปลาควรเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศสงบ ร่มรื่น ที่สำคัญต้องปลอดภัยหลังจากการปล่อย รวมทั้งน้ำไม่เน่าเสียซึ่งจะเป็นอันตรายต่อปลา 
  • ผมขอแนะนำที่สถานที่ วัดสะพานสูง อ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ปากซอยอยู่บนถนนชัยพฤกษ์ ด้านหลังวัดเป็นคลองขนาดใหญ่ที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และมีท่าน้ำสะดวกสำหรับการปล่อยปลา (เขตอภัยทาน)  ภายในวัดร่มรื่น และมีตลาดนัดในวันอาทิตย์ 
  • ขณะปล่อยปลา ค่อย ๆ เทปลาออกจากถุงพลาสติก  ปลาจะปรับตัวโดยการลอยตัวบริเวณผิวน้ำสักพักก่อนว่ายไป ในช่วงนั้นก็ให้พูดว่า " ขอให้ปลาอยู่รอดปลอดภัยไปนาน ๆ   ไม่ถูกจับ และไม่ถูกทำร้าย มีชีวิตอยู่อย่างสบาย และปลอดภัยจากโรคร้ายต่าง ๆ " 
  • หลังจากปล่อยปลาเสร็จ ก็หาโอกาสไปปล่อยนกที่ขายอยู่ในบริเวณวัด ถ้าจำไม่ผิดตัวละ 10 บาท 
  • ใครได้มีโอกาสไปปล่อยปลา สบายใจ และอิ่มบุญแล้ว เล่าสู่กันฟังบ้างครับ
  • เพราะการให้ชีวิตเป็นทาน " เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ "
  • ขออนุโมทนาบุญ สาธุ ครับ